วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ใบงานที่ 1 (คําศัพท์คอมพิวเตอร์)

คําศัพท์คอมพิวเตอร์และความหมาย 

1,) abort (อบอร์ท) : การไม่ทำงานของเครื่องโดยมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น 

2.) access (แอคเซส) : เข้าถึง, บอกตำแหน่ง, การอ่านหน่วยความจำ,และทำให้พร้อมที่จะนำมาใช้งาน คำว่า access ใช้กับการเข้าสู่แผ่นดิสก์, แฟ้มข้อมูล, ระเบียนและเครือข่ายต่างๆ

3.) address (แอดเดรส) : สังกัด, ตำแหน่งที่อยู่ของคลังข้อมูลในคอมพิวเตอร์ทั่วๆ ไป คลังข้อมูลแต่ละแห่งจะมีตำแหน่งที่อยู่ของระบบ หน่วยความจำอาจเป็น 0, 1, 2, 3 ฯลฯ

4.) analog (อนาลอค) : การเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางกายภาพที่ต่อเนื่องกันไป เช่น การเปลี่ยนแปลงแรงดันไฟฟ้าขึ้น-ลงในวงจรไฟฟ้า เป็นต้น

5.) append (แอพเพ็นด์) : แปลว่า ผนวกหรือเพิ่มเติมเข้ากับ ใช้ในการบันทึกข้อมูลเพิ่มเติมเข้าไปในแฟ้มข้อมูลในตอนสุดท้าย หรือหมายถึงการเพิ่มเติมตัวอักษรเข้าไปท้ายแถวของตัวอักษร

6.) backup (แบ็คอัพ) : สำเนาของโปรแกรม แผ่นดิสก์ หรือข้อมูล ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อประกันว่าโปรแกรม แผ่นดิสก์ หรือข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกลบเลือนไปเมื่อโปรแกรม แผ่นดิสก์ หรือข้อมูลที่กำลังใช้อยู่นั้นถูกทำลายไป

7.) bandwidth (แบนวิท) : ในการสื่อสาร ความกว้างของช่วงคลื่น วัดจากช่วงของความถี่สูงที่สุดมาหาความถี่ต่ำที่สุดในช่วงความถี่ของคลื่น ขนาดใดขนาดหนึ่ง เช่น ช่วงความกว้างของคลื่นของระบบโทรศัพท์ที่ความถี่ 3000 Hz จะอยู่ระหว่างความถี่ต่ำสุด 300 Hz กับความถี่สูงสุด 3300 Hz

8.) bar code (บาร์โค้ด) : รหัสพิเศษชนิดหนึ่ง ที่พิมพ์ติดเอาไว้ไว้บนสินค้า (หรือสิ่งอื่นใด) ในลักษณะเป็นชุดของเส้นตรงตั้งเรียงกัน เส้นตรงเหล่านั้น มีความกว้างแตกต่างกัน ใช้ในการตรวจสอบที่ถูกต้องอย่างไม่มีผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว มักใช้ตามห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาเก็ต ห้องสมุด และอื่นๆ

9.) batch (แบช) : กลุ่มของเอกสารหรือกลุ่มของระเบียนข้อมูล (data record) ซึ่งถูกนำมาประมวลผลในฐานะเป็นหน่วยเดียวกัน

10.) binary (ไบนารี่) : (เลข) ฐาน 2 คำว่า bi = 2 เลขฐาน 2 หมายถึง ในระบบนี้จะใช้เลขเพียง 2 ตัวเท่านั้น ได้แก่เลข 0 และเลข 1 เพื่อความเข้าใจจะเปรียบเทียบเลขฐาน 2 กับเลขฐาน 10 ซึ่งเราใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวัน เลขฐาน 10 เรานับ 0 1 2 3 ... ไปจนถึง 9 แล้วเริ่มนับ 0 ใหม่ เริ่มการนับครั้งที่ 2 เราเรียกว่า 10 มี หนึ่ง กับ 0 และเลขลำดับต่อไปจะเป็น 11 (หนึ่งกับหนึ่ง) 12 (หนึ่งกับสอง) เรื่อยๆไป ส่วนเลขฐาน 2 นั้นถูกนำมาใช้ในทางคอมพิวเตอร์ เพราะว่าเลข 0 กับเลข 1 สามารถแทนสถานการณ์ 2 อย่างคือ ปิดและเปิด หรือ ไม่จริงกับจริง ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้กับระดับแรงดันไฟฟ้าในวงจรของเครื่องมืออีเลคทรอนิกได้ พอดี ระบบเลขฐาน 2 มีความสำคัญมากในการคำนวณแบบดิจิตอล

11.) cable (เคเบิ้ล) : สายเคเบิล เป็นสายสื่อที่ใช้ต่อเชื่อมโยงระหว่างอุปกรณ์ชนิดต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ มีวัสดุห่อหุ้มสายเพื่อป้องกันความเสียหายและการรั่วไหล อุปกรณ์ต่างๆ ที่ต่อเชื่อมด้วยสายเคเบิล เช่น แป้นพิมพ์ (keyboard) เมาส์ (mouse) เครื่องพิมพ์ (printer) เป็นต้น

12.) call (คอล) : การถ่ายทอดโปรแกรม การควบคุมงานไปยังส่วนหนึ่งส่วนใดของรหัสในขณะที่กลังเก็บรักษา (save) สารสนเทศที่จำเป็น เพื่อให้การควบคุมการทำงานกลับมายังจุดที่เรียก

13.) card (การ์ด) : การ์ด หมายถึง แผ่นวงจรซึ่งพิมพ์สำเร็จ หรือหมายถึง adapter ซึ่งสามารถนำมาเสียบต่อเชื่อมโยงเข้ากับคอมพิวเตอร์ เพื่อให้สามารถทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งเพิ่มขึ้นได้

14.) CD (ซีดี) : คำย่อของ Carrier Detect เป็นสัญญานที่ส่งมาจากโมเด็ม ซึ่งเสียบต่อเชื่อมโยงอยู่กับคอมพิวเตอร์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าโมเด็มนั้นกำลังอยู่ในสาย

15.) chip (ชิพ) : คำย่อของคำว่า microchip ดูเพิ่มเติม integrated circuit

16.) data (ดาต้า) : ข้อมูล

17.) database (ดาต้าเบส) : ฐานข้อมูล แหล่งที่รวบรวมข้อมูลไว้เพื่อใช้สำหรับการค้นคว้า หรือนำมาใช้; แฟ้มข้อมูลอย่างหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยระเบียน (record) หรือตาราง (table) ระเบียนแต่ละระเบียน ต่างก็ประกอบไปด้วย field (หรือ column) ต่างๆ

18.) debug (ดีบั๊ค) : การค้นหา การแก้ไขข้อผิดพลาดทางตรรกะในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือการค้นหาและแก้ไขข้อผิดพลาดทางด้านฮาร์ดแวร์

19.) delete (ดีลีท) : การลบข้อความ ลบแฟ้มข้อมูล หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของเอกสาร

20.) desktop (เดสท็อป) : เนื้อที่บนจอภาพ ซึ่งจัดไว้ให้ผู้ใช้ได้ใช้ประโยชน์ เหมือนกับการใช้โต๊ะทำงาน เช่น มีไอคอน (icon) และเมนู (menu) เพื่อให้คลิก หรือเลือกใช้เครื่องมือต่างๆ ได้แก่ สมุดบันทึก เครื่องคิดเลข มีหมายเลขโทรศัพท์ กระดาษจดบันทึก จดโน๊ต เป็นต้น

21.) edit (อีดิท) : การปรับปรุง แก้ไข เปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่อง (text) เอกสาร หรือแฟ้มข้อมูล เพื่อให้ถูกต้องและดีขึ้น

22.) e-mail (อีเมลล์) : ดู electronic mail

23.) encode (เอนโค้ด) : ทำเป็นรหัส เช่น การป้องกันการเข้าถึงข้อมูล คุณสามารถแปลงข้อมูลให้เป็นรหัสอย่างใดอย่างหนึ่ง

24.) environment (เอนไวรอนเม้น) : ชุดของอุปกรณ์หรือ เครื่องใช้ต่างๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้เครื่องมือเครื่องใช้ระบบใดระบบหนึ่ง (ความหมายออกจะแตกต่างจากที่เราแปลว่า "สิ่งแวดล้อม" อยู่บ้าง) ยกตัวอย่างให้เห็นได้ชัด เช่น ในทางคอมพิวเตอร์ถือว่า ระบบการทำงานของวินโด้ (window operating system) เป็น environment อย่างหนึ่งของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ หมายความว่า เพราะวินโด้นี่เองที่ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ได้ หรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่า ผู้ใช้ใช้วินโด้เป็นเครื่องมือในการใช้คอมพิวเตอร์ทำประโยชน์ ดังนั้น วินโด้จึงเป็น environment

25.) error (เอเร่อร์) : ความผิดพลาด ทางด้านคอมพิวเตอร์ ความผิดพลาด (error) เป็นผลลัพธ์ของเหตุการณ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามที่คาดคิด ความผิดพลาดในด้านต่างๆ ทางคอมพิวเตอร์ เช่น error checking กระบวนการตรวจสอบผิดพลาดในระหว่างถ่ายทอดแฟ้มข้อมูลระหว่างผู้ส่งข้อมูลและ ผู้รับข้อมูล; error file แฟ้มข้อมูลผิดพลาด ได้แก่แฟ้มข้อมูลที่บันทึกเวลาในการประมวลผลข้อมูล และการถ่ายทอดข้อมูลผิดพลาด; error message ได้แก่ข่าวสารจากระบบหรือจากโปรแกรม ทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดพลาด เช่น หน้าจอขึ้น dialog box ว่า "Printer not ready" ซึ่งเกิดจากการขัดข้องในการส่งข้อมูลไปยังเครื่องพิมพ์ ไม่ใช่เกิดจากความไม่พร้อมของเครื่องพิมพ์ เป็นต้น

26.) file (ไฟล์) : แฟ้ม, แฟ้มข้อมูล เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล หรือสารสนเทศ รวมทั้งโปรแกรมต่างๆ ด้วย

27.) floppy disk (ฟล็อบปี้ดิสก์) : แผ่นดิสก์ชนิดอ่อน ทำด้วยสาร Mylar เคลือบด้วยสารแม่เหล็ก หรือ เหล็กออกไซต์ (ferric oxide) สำหรับใช้เก็บข้อมูล; diskette

28.) font (ฟอนต์) : รูปแบบและลักษณะของตัวอักษรชนิดหนึ่งๆ

29.) format (ฟอร์แมต) : รูปแบบ โครงสร้างหรือลักษณะของหน่วยหนึ่งๆ ของข้อมูล เช่น แฟ้มข้อมูลแฟ้มหนึ่ง; ฟีลด์ (field) หรือเรื่องของข้อมูลในฟีลด์หนึ่งๆ ในระเบียน (record) ของโปรแกรมเดต้าเบสเซล (cell) ในโปรแกรม speadsheet หรือรูปแบบของเอกสารที่จัดทำขึ้นในโปรแกรม word processor เป็นต้น เมื่อใช้คำ format เป็นคำกริยา หมายถึงการจัดรูปแบบของเนื้อเรื่อง (text) หรือการเปลี่ยนแปลงลักษณะของสิ่งใดๆ ในโปรแกรม spreadsheet และหมายถึงการจัดเตรียม แผ่นดิสก์เพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลได้

30.) freeware (ฟรีแวร์) : โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ให้เปล่าไม่ต้องเสียเงินซื้อ

31.) gate (เกท) : อาจเรียกว่า logic gate ด้วย เกต ได้แก่ สวิตซ์ อิเล็กทรอนิก ซึ่งดำเนินไปตามกฏของ Boolean ได้แก่ คำว่า AND, OR และ NOT กล่าวคือ เมื่อใช้เลขฐาน 2 จะปรากฎดังนี้ AND ถ้า 0 AND 0 มีค่าเท่ากับ 0 AND ถ้า 1 AND 0 มีค่าเท่ากับ 0 AND ถ้า 1 AND 1 มีค่าเท่ากับ 1 OR ถ้า 0 OR 0 มีค่าเท่ากับ 0 OR ถ้า 0 OR 1 มีค่าเท่ากับ 1 NOT = NOT TRUE หรือ ไม่จริง (false) และถ้า NOT FALSE คือ จริง (true) เป็นเหตุผลทางตรรกศาสตร์ เหตุผลดังกล่าวเหล่านี้ นำมาใช้ในวงจรคอมพิวเตอร์ ถ้าวงจรปิด (กระแสไฟฟ้าเดินไม่ได้) ถือว่าเป็น 0 และเมื่อวงจรเปิด (กระแสไฟฟ้าผ่านได้) ถือว่า เป็น 1 ดังนั้นเมื่อมีสวิตซ์ 2 แห่ง ในวงจรเมื่อสวิตซ์แห่งหนึ่งปิด (0) และสวิตซ์อีกแห่งหนึ่งเปิด (1) ค่ารวมทั้งวงจรเป็นศูนย์ (0) เพราะกระแสไฟฟ้าไม่อาจผ่านวงจรทั้งวงได้ นั่นคือ 0 AND 1 มีค่าเท่ากับศูนย์ (0) เมื่อสวิตซ์แห่งหนึ่งเปิด (1) และสวิตซ์อีกแห่งหนึ่งก็เปิด (1) ด้วย เพราะฉะนั้น กระแสไฟฟ้าของวงจรผ่านได้ตลอด เพราะฉะนั้น 1 AND 1 มีค่าเท่ากับ 1 สำหรับ OR ในวงจรไฟฟ้าที่มีสวิตซ์แห่งเดียว ถ้าวงจรปิด (0) กระแสไฟฟ้าผ่านไม่ได้ ดังนั้น 0 OR 0 จึงมีค่าเท่ากับศูนย์ (0) ต่อเมื่อวงจรใดวงจรหนึ่ง เปิด (1) กระแสไฟฟ้าปล่อยผ่านวงจรนั้นได้ ดังนั้น 0 OR 1 จะมีค่าเท่ากับ 1

32.) giga (จิ๊กกะ) : อ่านว่า จิ๊กกะ มีค่าเท่ากับ 10 ยกกำลัง 9 หรือ 1,000,000,000

33.) global (โกลบอลล์) : สากล, ทั่วโลก, ทั้งหมด เมื่อนำมาใช้กับคอมพิวเตอร์หมายถึง ทั้งหมด เช่น ทั้งหมดโปรแกรม เอกสารตลอดเรื่องหรือทั้งเรื่อง เป็นต้น

34.) graphical interface (กราฟฟิคอลล์ อินตอร์เฟสส์) : ดู graphical user interface

35.) grid (กริด) : ตารางซึ่งเกิดจากเส้นตรง 2 ชุดตัดกัน คือเส้นตรงชุดตั้ง และเส้นตรงชุดนอน

36.) hard disk (ฮาร์ดดิสก์) : ฮาร์ดดิสก์ แผ่นดิสก์แข็งเคลือบสารแม่เหล็ก เพื่อใช้เก็บข้อมูลของคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดดิสก์ โดยทั่วไปจะหมุนด้วยความเร็ว 3600 รอบต่อนาที (RPM) ปัจจุบันปี 2547 อัตรา 7200 รอบต่อนาที ถือเป็นความเร็วมาตรฐาน หัวสำหรับอ่าน/บันทึก ข้อมูล จะวางอยู่ห่างจากแผ่นดิสก์ระหว่าง 10/1,000,000 ถึง 25/1,000,000 นิ้ว ฮาร์ดดิสก์จะถูกเคลือบเพื่อป้องกันฝุ่น ผง หรือสิ่งสกปรกเปรอะเปื้อน

37.) hardware (ฮาร์ดแวร์) : ฮาร์ดแวร์ ตัวเครื่องของคอมพิวเตอร์และตัวเครื่องของอุปกรณ์ประกอบภายนอก (peripheral) อื่นๆ

38.) header (เฮดเดอร์) : หัวกระดาษ หน้าเอกสารใน word processing ข้อความแถวบนสุดที่มีไว้เพื่อบอกชื่อหนังสือ หรือเอกสารนั้น หรือบท หรือตอนนั้นๆ

39.) help (เฮปป์) : กิจลักษณ์อย่าง หนึ่งมีไว้สำหรับช่วยเหลือการใช้คอมพิวเตอร์ ในโปรแกรมปฏิบัติการต่างๆ ประกอบไปด้วยคำแนะนำ และการแก้ปัญหาต่างๆ ในการทำงานในโปรแกรมนั้นๆ

40.) host (โฮสต์) : คอมพิวเตอร์หลักในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ ต่อเชื่อมโยงอยู่

41.) icon (ไอค่อน) : ไอคอน ภาพเล็กๆ ที่ปรากฏบนจอภาพเพื่อแทนโปรแกรมกิจลักษณ์ (feature) หรือแฟ้มข้อมูลใดๆ เมื่อต้องการใช้สิ่งเหล่านี้ ผู้ใช้เพียงแค่คลิกที่ icon เหล่านี้ โปรแกรม กิจลักษณ์ หรือแฟ้มข้อมูลนั้น ก็จะเปิดออกมาให้ใช้ได้ทันที

42.) image (อิมเมจ) : ภาพ หมายรวมถึง รูปภาพที่ปรากฏบนกระดาษ บนจอภาพ หรือรูปภาพที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ หรือรูปภาพที่สร้างขึ้นมาจาก pixel (bitmap) ด้วย

43.) import (อิมพอร์ต) : การนำเอาเอกสารสารสนเทศจากที่อื่น ระบบอื่น หรือโปรแกรมอื่น มาสู่คอมพิวเตอร์ของผู้ใช้

44.) information (อินฟอร์เมชั่น) : สารสนเทศ ได้แก่ข้อมูลที่นำมาแปลความหมายแล้ว เป็นข้อเท็จจริงที่ได้จากข้อมูล หลังจากที่ได้ประมวลผลข้อมูลนั้นๆ แล้ว

45.) input (อินพุท) : การนำข้อมูลหรือ สารสนเทศเข้าสู่คอมพิวเตอร์ เช่น ใช้แป้นพิมพ์ (keyboard) หรือการนำเข้าจากแฟ้มข้อมูลบนแผ่นดิสก์ ผ่านทางช่องดิสก์ เป็นต้น

46.) kernel (เคอร์เนล) : ศูนย์กลางของระบบ ควบคุมการปฏิบัติงาน ส่วนหนึ่งของระบบที่จัดการเกี่ยวกับหน่วยความจำ แฟ้มข้อมูลและอุปกรณ์ต่อเชื่อมโยงต่างๆ เป็นส่วนที่รักษาเวลาและวันเดือนปี ส่วนนี้ทำหน้าที่นำโปรแกรมปฏิบัติการออกมาทำงาน และเป็นส่วนที่กำหนดระบบแหล่งข้อมูล

47.) key (คีย์) : แป้นคีบนแป้นพิมพ์ ในภาษาไทยมักเรียกว่า แป้นอักษร

48.) keyboard (คีย์บอร์ด) : แป้นพิมพ์ หรือ คีบอร์ด เป็นอุปกรณ์ประกอบภายนอกอย่างหนึ่งของคอมพิวเตอร์ มีลักษณะคล้ายแป้นพิมพ์ดีด เป็นเครื่องมือนำข้อมูลเข้า (input device) อย่างหนึ่งของคอมพิวเตอร์

49.) keyword (คีย์บอร์ด) : คำไข ข้อความ วลี หรือ รหัสใดๆ ที่เก็บไว้ใน key field และนำมาใช้เรียงลำดับ หรือใช้ในการค้นหาในระเบียน; คำซึ่งได้สงวนไว้เพื่อใช้ในภาษาโปรแกรม หรือใช้ในระบบการปฏิบัติงานโดยเฉพาะ

50.) kilo (กิโล) : เท่ากับ 1,000 ตามระบบเมตริก ในทางคอมพิวเตอร์ kilo จะเท่ากับ 1024 หรือ 2 ยกกำลัง 10 เพราะว่าใช้เลขฐาน 2 เนื่องจากมีความแตกต่างกันเช่นนี้ ในทางปฏิบัติจึงมักใช้ k แทน 1.000 และ K แทน 1024 เช่น 1 kHz = 1,000 hertz และ KB = 1024 byte เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น